การประยุกต์การใช้งานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของวัสดุ
แม้ว่ากระจกตัดแสงจะสามารถลดความร้อนให้ผ่านเข้ามาในอาคารได้น้อยลงกว่ากระจกใส แต่จากคุณสมบัติที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นว่าความร้อนที่ลดลงนั้นส่วนหนึ่งจะถูกสะท้อนกลับไป ซึ่งเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 5 – 10 เท่านั้น ที่เหลือประมาณร้อยละ 50 จะถูกดูดกลืนและเก็บไว้ในเนื้อกระจก ทำให้เมื่ออยู่ใกล้กับผิวกระจกจะรู้สึกร้อน และในปัจจุบันผู้คนส่วนมากจะมีค่านิยมที่ต้องการให้บ้านมีพื้นที่ที่เป็นช่องกระจกค่อนข้างมาก เนื่องจากต้องการให้เกิดความรู้สึกโล่งสบาย ไม่มืดทึบ ฉะนั้นการที่จะช่วยลดความร้อนที่จะมากระทบกับผิวกระจกโดยตรง จึงเป็นวิธีที่ควรจะนำมาใช้เสมอ ไม่ว่าจะใช้กระจกชนิดใดก็ตาม ซึ่งวิธีง่ายๆ คือการทำอุปกรณ์บังแดดไว้ภายนอกบริเวณที่เป็นกระจก โดยที่บังแดดนั้นสามารถทำได้ทั้งแบบถาวรและแบบชั่วคราว ดังรูปที่ 10 ส่วนเรื่องของรูปแบบและขนาดนั้นสามารถคำนวณได้จากทิศทางของอาคารว่ามีการวางผังในทิศทางใด ซึ่งถ้าผู้อยู่อาศัยมีความสนใจอาจทำการปรึกษา หรือศึกษาเพิ่มเติมได้จากผู้เชี่ยวชาญ
ข้อควรระวังและความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องของคนทั่วไป คือ การใช้ม่านบังแดดหรือการปิดทับด้วยวัสดุใดๆ ก็ตามบริเวณด้านในของผิวกระจก ซึ่งแม้ว่าผู้อาศัยจะรู้สึกได้ถึงความร้อนและความจ้าของแสงที่จะลดลงไปอีกเมื่อมีการติดม่านไว้ด้านใน ซึ่งสามารถทำได้และเป็นที่นิยมใช้กันมาก นอกจากกระจกใสซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันทั่วไปแล้ว ในปัจจุบันมีกระจกที่มีการจำหน่ายให้เลือกมากมายหลายชนิด ซึ่งผู้ใช้ควรพิจารณาเปรียบเทียบในเรื่องคุณสมบัติและราคา นอกจากนี้ควรระวังในเรื่องการนำวัสดุใดๆมาปิดทับหรือวางชิดกระจก ซึ่งจะทำให้เกิดความร้อนขึ้นอย่างมากบริเวณนั้น เนื่องจากกระจกไม่สามารถถ่ายเทความร้อนออกมาได้เลย และถ้าความร้อนที่ถูกสะสมไว้มีมากเกินไปในขณะที่อุณหภูมิภายในห้องนั้นต่ำกว่ามาก หากมีการปรับอากาศก็จะทำให้กระจกเกิดการแตกร้าวได้
หน้าที่เข้าชม | 24,822 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 19,957 ครั้ง |
เปิดร้าน | 12 ม.ค. 2564 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |